เมื่อวันที่ เทคโนโลยี Disruption เปลี่ยนวิถีชีวิต การสื่อสารตลาดในยุค Marketing 4.0 นี้ แบรนด์ต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องเใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างโอกาสใหม่ ๆ
Technology is the Opportunity of Marketers ยุค 4.0 ใช้ให้เป็น ก้าวให้ทันผู้บริโภค
เมื่อวันที่ เทคโนโลยี Disruption สิ่งที่เกิดไม่เพียงต่อเปลี่ยนวิถีชีวิตของผู้บริโภค แต่ยังส่งผลต่อการสื่อสารตลาดในยุค Marketing 4.0 นี้ วันนี้ แบรนด์ และธุรกิจต่าง ๆ จำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี เพื่อสร้างแรงจูงใจที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว
ปณต กาญจนศูนย์ หัวหน้าแผนกการตลาดและดิจิทั
จากการเปลี่ยนแปลงอันรวดเร็วของเทคโนโลยี อันเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนของโลกในปัจจุบัน และอนาคต โดยเฉพาะแวดวงของนักการตลาดไทย ไอเดียและความคิดสร้างสรรค์เป็นหัวใจสำคัญของการเอาชนะใจผู้บริโภค บวกกับการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างแต้มต่อมัดใจผู้บริโภคในยุค 4.0
เทคโนโลยีได้เข้ามามีผลกระทบต่
การตลาดแห่งยุคอนาคตกำลังจะเปลี่
Measurable : ช่วยให้การวัดผลในการทำการตลาดมีความชัดเจนมากขึ้น โดยสามารถติดตามมอนิเตอร์ได้ใกล้ชิดแบบเรียลไทม์ได้ว่า ยอดขายและลูกค้ามาจากช่องทางไหน มีคนเข้าเว็บไซต์กี่คน ทำให้สามารถจัดการและวางแผนเพื่อช่วยเพิ่มยอดขายและขยายกิจการได้แม่นยำ รวดเร็วขึ้น
Automation : การตั้งค่าให้เครื่องมือทำงานได้อัตโนมัติด้วยตนเอง ส่งผลให้สามารถใช้คนน้อยลงแต่กลับได้ประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มสูงขึ้น สามารถกระจายสินค้าได้มากขึ้น หากไม่มีเทคโนโลยี อาจจะต้องใช้คนจำนวนมากขึ้นถึงจะได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพเช่นปัจจุบัน
Scalable : การวิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาดเพื่อให้สามารถขยายกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมาก เนื่องจากทราบถึงต้นทุนที่วัดได้ (Measurable) ซึ่งอาจเกิดจากการใช้คนที่น้อยลงแต่ให้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น (Automation) กว่าเดิม
จาก 3 ปัจจัยข้างต้น แสดงให้เห็นว่าการเข้ามาของเทคโนโลยีนั้นส่งผลให้ธุรกิจสามารถขยายตัวได้ดียิ่งขึ้น แม้จำนวนบุคลากรจะน้อยลง แต่ยังสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพสูง ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเพิ่มความมั่นใจให้ผู้บริหารและเจ้าของกิจการได้มากขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ เครื่องมือที่ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้เกิด Measurable, Automation และ Scalable ได้แก่ Cloud เทคโนโลยี ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่เข้ามาช่วยในการทำการตลาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นทั้งในระดับของผู้บริโภค เช่น Gmail และ Facebook
และระดับของนักการตลาด เช่น Google AdWords, Facebook Ads, HubSpot, Microsoft Azure, หรือ Oracle Cloud โดยในการใช้ Cloud เพียงแต่เช่าพื้นที่ในขอบเขตที่ต้องการและสามารถตั้งค่าอัตโนมัติ ให้วิเคราะห์และแสดงค่าออกมาเป็นกราฟ
เพื่อนำข้อมูลที่ได้กลับมาใช้งานวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ และนำไปสู่การทำการตลาดที่ได้ประสิทธิผลสูงสุด ซึ่งหากเป็นการทำการตลาดแบบเดิม จะมีการลงทุนที่สูงและใช้เวลานาน กว่าจะพัฒนาเครื่องมือเพื่อวิเคราะห์ข้อมูล
และอาจจะเป็นข้อมูลที่ล่าช้าไปแล้วก็ได้ เรียกได้ว่า “เทคโนโลยีทำให้นักการตลาดจ่ายเงินน้อยลงแต่ได้ประสิทธิผลที่แม่นยำเป็นประโยชน์มากขึ้น“
ถ้าถามว่าเครื่องมือทางการตลาดจะส่งผลดีต่อผู้บริโภคหรือไม่ ต้องตอบว่าส่งผลดีทั้งในมุมของผู้ที่ทำการตลาดและผู้บริโภค โดยในมุมของนักการตลาด ทำให้จ่ายเงินในราคาที่ถูกลง แต่ได้ผลลัพธ์ที่มากขึ้น ในมุมของผู้บริโภค ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ และความพึงพอใจที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ดีแม้ว่าเทคโนโลยีและนวัตกรรมจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร หลักการในการทำการตลาดยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เพราะหัวใจสำคัญของการตลาดยังคงเป็น “ผู้บริโภค และแบรนด์“ แต่สิ่งที่นักการตลาดรุ่นใหม่ต้องปรับตัวให้ทัน คือการเลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะกับสถานการณ์ เลือกใช้เครื่องเหมือนที่ถูกต้องเหมาะสม
เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการให้ตรงตามพฤติกรรมของผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย และต้องปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยี เพราะเทคโนโลยีไม่ใช่อุปสรรคต่อนักการตลาด แต่จะเป็นโอกาสและเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของนักการตลาดแห่งอนาคต
ส่วนขยาย
* บทความนี้เรียบเรียงขึ้นเพื่อวิเคราะห์ในแง่มุมที่น่าสนใจ ไม่มีวัตถุประสงค์มุ่งเพื่อโจมตีหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง
** Compose : ชลัมพ์ ศุภวาที (Editors and Digital Content)
*** ขอขอบคุณภาพบางส่วนจาก www.pexels.com
สามารถกดติดตาม ข่าวสาร และบทความทางด้านเทคโนโลยี ของเราได้ที่