เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2564 บริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing หรือ TSMC ผู้ผลิตชิปรายใหญ่ที่สุดของโลก และผู้จัดส่งชิปให้กับบริษัทไอทียักษ์ใหญ่ เช่น Apple, AMD, Apple, ARM, Broadcom, Marvell, MediaTek, Nvidia, and Qualcomm ประกาศแผนจัดตั้งโรงงานในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น รองรับตลาดของชิปที่ขาดแคลนเพราะถูกนำไปใช้สมาร์ตโฟน แลปทอป และรถยนต์
โดย TSMC ได้เปิดเผยรายได้ประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2564 อยู่ที่ 13,290 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 436,895,460,000 บาท) สูงขึ้นกว่าเดิม 28% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปี 2563 พร้อมคาดการณ์ว่า ในไตรมาสที่ 3 (หลังจากสิ้นสุดเดือนกันยายน 2564) จะทำรายได้อยู่ที่ประมาณ 14,600-14,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 479,945,800,000 – 489,807,700,000 บาท) หรือประมาณ 21-23%
ขณะที่กำไรไตรมาสที่ 2 นั้นอยู่ที่ 4.81 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 158,107,105,000 บาท) ส่วนกำไรต่อหุ้น (Earnings Per Share: EPS) เพิ่มขึ้น 11.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ของปีก่อน
TSMC เปิดเผยอีกว่า เตรียมขยายกำลังการผลิตในประเทศจีน และไม่ได้ปฏิเสธในเรื่องความเป็นไปได้ในการขยายโรงงานในรัฐแอริโซนาของสหรัฐฯ ในเฟส 2 ซึ่งใช้เงินมากกว่า 12,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 394,422 ล้านบาท) และกำลังพิจารณาตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วน “แผ่นเวเฟอร์” หรือ Wafer (ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสำคัญของชิป) ในประเทศญี่ปุ่น
Mark Liu ประธานกรรมการบริษัท TSMC กล่าวว่า “เรากำลังขยายฐานการผลิตไปยังทั่วโลกเพื่อรักษาและเพิ่มข้อได้เปรียบในการแข่งขัน และเพื่อให้บริการลูกค้าภายใต้สภาพภูมิรัฐศาสตร์การเมืองโลกใหม่ได้”
“ในขณะที่ต้นทุนโรงงานของเราซึ่งผลิตในต่างประเทศ อาจจะเทียบต้นทุนการผลิตในไต้หวันไม่ได้ เราแต่เราจะทำงานร่วมกับรัฐบาลต่างๆ เพื่อลดช่องว่างด้านต้นทุนให้เหลือน้อยที่สุด”
– Mark Liu กล่าว –
ทำให้ในเวลานี้ ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 นี้ ไต้หวัน และ TSMC กลายเป็นศูนย์กลางการแก้ปัญหาภาวะชิปทั่วโลกขาดตลาด ซึ่งการที่ชิปขาดตลาดนั้น ส่งผลต่อการผลิตรถยนต์ โทรศัพท์มือถือ แลปทอป และเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างหลีกเลี่ยงเลี่ยงไม่ได้
Reuters ระบุว่า ปัจจุบัน TSMC ขึ้นแท่นบริษัทที่มีมูลค่าอยู่ที่ 567,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 18,637,290 ล้านบาท) ถือว่าเป็นบริษัทมีมูลค่าสูงติดอันดับที่ 17 ของโลก ขณะที่มูลค่าบริษัทของ TSMC ตอนนี้ มีมูลค่ามากกว่า Intel เป็นเท่าตัวแล้ว และมูลค่าหุ้นของบริษัทในปีนี้เพิ่มขึ้นมาแล้ว 16% เมื่อเทียบกับปีก่อน
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา TSMC ก็ได้ประกาศลงทุนระยะยาว 3 ปี ภายใต้วงเงินลงทุน 1 แสนล้านดอลลารสหรัฐฯ (ประมาณ 3,287,000 ล้านบาท) เพื่อเพิ่มความสามารถในการผลิตชิป รองรับความต้องการของตลาดที่มีสูงมากขึ้น หลังจากในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Intel ประกาศลงทุนเงิน 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 657,400 ล้านบาท) เพื่อขยายกำลังการผลิตชิป เพื่อสร้างโรงงานผลิตอีก 2 แห่งในรัฐแอริโซนาของสหรัฐฯ อีกด้วย
หมายเหตุ: เทียบ 1 ดอลลาร์สหรัฐ = 32.87 บาท ณ วันที่ 21 กรกฎาคม 2564