งานวิจัยล่าสุดจากการศึกษาร่วมกันระหว่าง PwC และ Economist Intelligence Unit (EIU) เปิดเผยว่า จีนจะแซงหน้าอเมริกาในตลาดค้าปลีกรายใหญ่ที่สุดในโลกภายใน 3 ปีข้างหน้า ทั้งนี้มูลค่าการเติบโตของยอดขายธุรกิจค้าปลีกจะมีถึง 7.9% ภายในปี 2561 เทียบกับ 2.6% ของอเมริกาเหนือ และทั่วโลกเฉลี่ย 3.4% โดยรายงานได้ระบุว่า
แม้จะมีการเติบโตที่ช้าลง จีนยังคงเป็นห่วงโซ่ค้าปลีกของโลกที่น่าจับตาก ทั้งที่มูลค่าค้าปลีกต่อปีจะลดลงถึง 15.6% ในปี 2552 จีนยังคงเป็นตลาดที่คาดว่าจะมีอัตราเติบโตเฉลี่ย 8.7% ในอีก 2 ปีข้างหน้า ด้วยประชากรที่มากถึง 19% ของโลก การเติบโตของผู้บริโภคชาวจีนมีนัยสำคัญเพิ่มขึ้นในทศวรรษที่ผ่านมา
ด้วยค่าแรงที่สูงขึ้น การเติบโตของเมืองและมาตรฐานการดำรงชีวิตที่ดีขึ้น ในปี 2565 คาดว่า 75% ของประชาชนในแผ่นดินใหญ่จะถูกจัดว่าเป็นคนชั้นกลาง เทียบกับตัวเลข 4% ในปี 2555 ทั้งนี้การลงทุนต่างประเทศโดยตรงในประเทศจีนสูงถึง 128 พันล้านดอลลาร์ในปี 2557 มากกว่าในสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกในรอบเกือบหนึ่งศตวรรษ และแม้ว่าตลาดต่างประเทศจะกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของจีนแผ่นดินใหญ่หลังจากปี 2557 ซึ่งผลิตภัณฑ์มวลรวมหรือจีดีพีอยู่ที 7.4% ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2553 แต่ PwC และ EIU เชื่อว่าความกังวลดังกล่าวก็มากเกินไป เพราะแม้ว่าจีนจะชะลอตัว แต่เมื่อเทียบกับประเทศตะวันตก การเติบโตของจีดีพีของจีนยังมีมากกว่า โดยจีดีพีที่แท้จริงของสหรัฐเติบโตที่ 2.4% เมื่อปีที่แล้ว