การพิสูจน์ตัวตัวทางดิจิทัล หรือการพิสูจน์อัตลักณ์ทางดิจิทัลเริ่มเป็นประเด็นร้อนแรงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเกิดขึ้นกับธนาคารของสหรัฐอเมริกาและฝั่งยุโรป ที่พยายามจะสร้างรูปแบบการยืนยันตัวตนในรูปแบบใหม่ให้กับลูกค้า เพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย สามารถทำ e-kyc (Know your customer) ลดปัญหาการละเมิดและการปลอมแปลงเอกสาร  และบางประเทศใช้แก้ปัญหาในด้านอื่น ๆ

อินเดีย หนึ่งในประเทศที่กำลังเริ่มพัฒนาระบบ Digital ID ของตัวเอง โดยมีแผนจะนำมาแก้ปัญาหาแก่ประชาชนที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการต่าง ๆ ของรัฐได้ เพราะบางคนไม่มีเอกสารที่ใช้ระบุตัวตน รวมทั้งสร้างระบบยืนยันตัวตนในรูปแบบใหม่ให้กับคนที่มีเอกสารระบุตัวตนอยู่แล้ว  โดยโครงการนี้จะให้ประชาชนมาขึ้นทะเบียนกับรัฐ แล้วสร้างการยืนยันตัวตนโดยใช้ระบบไบโอเมตริกซ์เช่น ลายนิ้วมือ

เรื่องนี้เริ่มต้นตั่งแต่ปี 2008 อินได้ได้ริเริ่มโครงการ Unique Identification Authority of India (UIDAI) โดยมีหน่วยงานกลางอย่าง Aadhaar ที่ให้คนอินเดียมาขอสมัครรับบริการข้างต้น มีจุดประสงค์เพื่อสร้างระบบยืนยันตัวตนดิจิทัลให้แก่ผู้อยู่อาศัยในประเทศทั้งหมดกว่า 1.32 พันล้านคน

วิธีการทำงานของ UIDAI

ประชาชนชาวอินเดียสามารถสมัครหมายเลข Aadhaar ได้โดยส่งหลักฐานยืนยันตัวตน เช่นหลักฐานที่อยู่และลงทะเบียนข้อมูลไบโอเมตริกซ์ (ลายนิ้วมือและสแกนม่านตา) จากนั้นจะได้รับหมายเลข Aadhaar ที่สามารถใช้เปิดบัญชีธนาคารหรือทำธุรกรรมทางการเงินอื่น ๆ ได้ แต่หมายเลขนี้ยังไม่สามารถใช้แทนหนังสือเดินทางหรือใบขับขี่ได้ ซึ่งในอนาคตอันใกล้อินเดียมีแผนจะทำให้ครอบคลุมทุกบริการของรัฐ

ทั้งนี้ในเรื่องของการทำธุรกรรมทางการเงินด้วยระบบะบบไบโอเมตริกซ์  ธนาคาร  Western Union ในอินเดียเปิดใช้งานความสามารถทางไบโอเมตริกซ์แล้ว  โดยเมื่อมีคนต้องการโอนเงินผ่าน Western Union พวกเขาสามารถระบุและตรวจสอบตัวเองโดยใช้ลายนิ้วมือตรวจสอบ โดยไม่แสดงเอกสารกระดาษหรือการ์ดพลาสติกใด ๆ

และในช่วงกลางปี ​​2014 Narendra Modi นายกรัฐมนตรีอินเดียได้สั่งให้ธนาคารจัดทำบัญชีธนาคารให้กับผู้ที่ไม่เคยมีหมายเลขบัญชีมาก่อนโดยใช้หมายเลข Aadhaar ที่สร้างขึ้นใหม่ ทำให้ประชากรกว่า 557 ล้านคน สามารถมีบัญชีธนาคาร ทั้งนี้ Aadhaar ไม่ได้เป็นมีประโยชน์กับผู้ใช้อย่างเดียวเท่านั้น แต่บริการนี้สามารถสร้างลูกค้าใหม่ให้กับธนาคารมากขึ้น

ทำไมการชำระเงินถึงมีความสำคัญ?

ปัจจุบันจีนอาจเป็นที่หนึ่งด้านการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือ แต่ Aadhaar Pay แตกต่างออกไป เพราะหากประชาชนอินเดียต้องการจะทำธุรกิจ พวกเขาเพียงแค่ใช้ลายนิ้วมือและหมายเลข Aadhaar เท่านั้น

โดยรัฐบาลอินเดียมีคำสั่งให้ ทุกธุรกรรม การดำเนินงานเกี่ยวกับเอทีเอ็มและเครือข่ายการชำระเงินผ่านบัตรต่าง ๆ ที่ได้รับอนุญาตจะถูกโอนย้ายไปยังการรับรองความถูกต้องทางชีวภาพบนระบบของ Aadhaar เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยและป้องกันการฉ้อโกง ซึ่งการฉ้อโกงนั้นเกิดขึ้นได้กับทุกฝ่าย ทั้งผู้ให้บริการทางการเงินและผู้รับบริการทางเงิน

ทำไมจึงสำคัญสำหรับธนาคาร

เมื่อทุกอย่างกลายเป็นระบบดิจิทัลมากขึ้น ผู้คนก็เปลี่ยนพฤติกรรมจากการใช้งานเดิม ๆ มาใช้รูปในแบบดิจิทัลมากขึ้น ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ไหน พวกเขาสามารถช็อปปิ้ง การชำระค่าใช้จ่าย การโอนเงิน และธุรกรรมอื่น ๆ ซึ่งเบื่อบริการต่าง ๆ เกิดขึ้น ทำให้ผู้คนต้องเปิดบัญชีมากขึ้นเรื่อย ๆ และข้อมูลเหล่านี้จะล่องลอยอยู่บนอินเทอร์เน็ต ซึ่งเสี่ยงต่อการโจมตีในโลกออนไลน์  ธนาคารจึงจำเป็นต้องมีระบบที่สามารถยืนยันตัวตนได้อย่าง 100% และนั่นคือสิ่ง Aadhar สร้้างขึ้น

จุดสำคัญของระบบ Aadhar คือการมีฐานข้อมูลส่วนกลางที่รวมข้อมูลของประชาชนไว้ในจุดเดียว ทำให้การบริหารจัดการข้อมูลทำได้ง่าย และอยากที่จะมีข้อมูลรั่วไหล แต่หากโดนโจมตีขึ้นมา ข้อมูลประชาชนทั้งประเทศจะถูกขโมยทันที ซึ่งนี่อาจะเป็นจุดอ่อนอย่างหนึ่งที่อินเดียต้องให้ความสำคัญ

ทั้งนี้ ดร.ปราโมทย์ วาร์มา หนึ่งในผู้บริหารของ Aadhaar กำลังจะเดินทางมาประเทศไทยวันที่ 28 มิถุนายน 2562 เพื่อเป็นวิทยากรภายในงาน Thailand 1ST Digital ID Symposium 2019 ในหัวข้อ “Managing more than 1.2 billion population with the most sophisticated Digital ID Program” โดยงานในครั้งนี้จะเป็นครั้งในประเทศไทยที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ต้อนรับการเริ่มต้นของ Thailand Digital ID

  Source : secureidnew , tearsheet