HID Global ผู้ให้บริการด้านโซลูชันระบุตัวตน แนะ 10 ข้อควรคำนึงถึง ก่อนเลือกซื้อ “เครื่องพิมพ์บัตรประจำตัว”
ทุกวันนี้ องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น โรงพยาบาล สถานศึกษา ต่างก็มองหาโซลูชันการพิมพ์บัตรประจำตัวที่เชื่อถือได้ มีความยืดหยุ่น และคุ้มค่าการลงทุน ด้วยตัวเลือกที่หลากหลาย ที่ทำให้การเลือกซื้อต้องใช้เวลามาก HID Global ผู้ให้บริการด้านโซลูชันระบุตัวตนของผู้คน สถานที่และสิ่งต่างๆ ทั่วโลก ได้เผยถึงข้อควรคำนึงถึง 10 ข้อ ที่จะช่วยให้องค์กรเลือกโซลูชันการพิมพ์บัตรได้ตรงตามความต้องการ
1. ความปลอดภัย
จากความกังวลด้านความปลอดภัยที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้การปกป้องข้อมูลที่เป็นความลับต่างๆ เช่น ข้อมูลทางการเงิน ประวัติการรักษาของคนไข้ และเอกสารที่เป็นความลับนั้นทวีความสำคัญขึ้น เมื่อต้องตัดสินใจเลือกโซลูชั่นการพิมพ์ องค์กรจึงควรพิจารณาสิ่งต่อไปนี้
การประเมินความเสี่ยง: จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามีบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตเข้าถึงข้อมูลสำคัญ หรือมีการบุกรุกข้อมูล ดังนั้น องค์กรต้องกำหนดระดับของความปลอดภัยที่เหมาะสม
ความปลอดภัยของฮาร์ดแวร์: หลังประเมินความเสี่ยงแล้ว องค์กรต้องพิจารณาฮาร์ดแวร์ที่สามารถรองรับเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่หลากหลาย โดยดูว่าองค์กรต้องการความปลอดภัยแบบมาตรฐานทั่วไป หรือต้องการบัตรประจำตัวที่มีโซลูชั่นความปลอดภัยที่ซับซ้อนมากขึ้น
ความยืดหยุ่น: ฮาร์ดแวร์ของเครื่องพิมพ์บัตรควรรองรับมาตรการความปลอดภัยที่หลากหลายได้ และสามารถปรับให้เข้ากับความต้องการด้านความปลอดภัยที่อาจเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มขึ้นได้เมื่อเวลาผ่านไป
ความปลอดภัยของเครื่องพิมพ์: องค์กรไม่ควรมองข้ามการรักษาความปลอดภัยของเครื่องพิมพ์บัตร โดยระบบล็อคแบบกลไกจะจำกัดการเข้าถึงเครื่องพิมพ์ ช่วยป้องกันไม่ให้บุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตนำข้อมูลที่เป็นความลับออกจากเครื่องพิมพ์
ความปลอดภัยด้านอิเล็กทรอนิกส์: ควรมีการป้องกันการเข้าถึงเครื่องพิมพ์บัตรแต่ละเครื่องโดยใช้หมายเลขประจำตัวส่วนบุคคล (PINs) และชุดข้อมูลการสั่งพิมพ์บัตรควรตรงตามหรือสูงกว่ามาตรฐานการเข้ารหัสขั้นสูง
2. บัตรที่ทนทาน คืออายุการใช้งานที่นานขึ้น
ท้ายสุดแล้ว ประสิทธิภาพของระบบพิมพ์บัตรนั้น ขึ้นอยู่กับว่าบัตรที่ได้มา ตรงกับความต้องการในการใช้งานเพียงใด ในการเลือกเครื่องพิมพ์บัตร องค์กรต้องคำนึงถึงว่าจะมีการใช้บัตรในสภาวะและสภาพแวดล้อมอย่างไร เพื่อพิจารณาตัวเลือก ดังนี้
ใช้การพิมพ์ภาพละเอียดสูง (HDP) หรือการพิมพ์ 2 ขั้นตอน (retransfer) ซึ่งฟิล์ม HDP ที่ใช้ในกระบวนการพิมพ์ดังกล่าว จะช่วยปกป้องภาพที่พิมพ์ออกมาให้คงทน การเคลือบบัตรซ้ำไปมา เพื่อช่วยเพิ่มความทนทานและยืดอายุการใช้งาน
3. ระบุปริมาณบัตรที่ต้องการพิมพ์
บัตรที่ต้องพิมพ์มีจำนวนกี่ใบและใช้เวลานานเท่าไหร่ การพิมพ์บัตรใหม่จะทำเป็นช่วงๆ ตลอดทั้งปี หรือพิมพ์เป็นจำนวนมากในครั้งเดียว หรือหลายครั้งต่อปี คำถามเหล่านี้ล้วนมีความสำคัญเพราะเครื่องพิมพ์ที่ผลิตออกมามีคุณสมบัติรองรับการใช้งานที่แตกต่างกันไป สำหรับการพิมพ์บัตรในปริมาณมาก ผู้ใช้งานควรเลือกเครื่องพิมพ์ที่มีกล่องใส่บัตรและกล่องรับบัตรขนาดใหญ่ เพื่อให้สามารถพิมพ์บัตรได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยไม่ต้องคอยเติมวัสดุที่ต้องใช้สำหรับการพิมพ์
4. ต้องการฟังก์ชันบัตรที่ใช้งานร่วมกันได้หรือไม่?
อีกปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาคือจะมีการใช้แอปพลิเคชันหลายตัวร่วมกับบัตรหรือไม่ ทั้งการเข้ารหัสและการเคลือบบัตร และจะต้องแจกจ่ายบัตรที่พิมพ์เสร็จแล้วออกไปในอัตราเท่าใด ในปัจจุบัน ระบบพิมพ์บัตรต่างๆ สามารถใช้งานหลายอย่างพร้อมกันได้แล้ว
5. การทำงานร่วมกับระบบควบคุมการเข้า-ออกทางกายภาพ
ภายในองค์กร จะมีการใช้บัตรประจำตัวในเรื่องอื่นอีกหรือไม่ ฟังก์ชันใดที่ควรคำนึงถึงเมื่อเลือกโซลูชั่นการพิมพ์บัตรที่ปลอดภัย และหากต้องการเปลี่ยนบัตรประจำตัวแบบธรรมดาๆ ไปสู่บัตรเทคโนโลยีเอนกประสงค์ หรือเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าระบบควบคุมการเข้า-ออกทางกายภาพก็ตาม ควรต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ในการเลือกผู้ให้บริการที่มีโซลูชั่นระบุตัวตนที่ปลอดภัยและสามารถใช้งานร่วมกันได้ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสิ่งที่ลงทุนไปแล้วจะยังใช้งานได้อยู่ และสามารถเสริมเทคโนโลยีใหม่เข้ากับโครงสร้างพื้นฐานเดิมได้ตามต้องการ
6. การเชื่อมต่อที่สร้างความยืดหยุ่นและสะดวกในการใช้งาน
หากต้องการโซลูชั่นที่สามารถพิมพ์บัตรได้ทันทีผ่านมือถือ และเข้ารหัสบัตรที่ปลอดภัยได้ สิ่งที่ตอบโจทย์คือโซลูชั่นที่รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อ USB สำหรับการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเครื่องเดียว อีเทอร์เน็ตสำหรับการพิมพ์บัตรผ่านเครือข่าย และไวไฟ สำหรับการพิมพ์ผ่านคลาวน์ คุณสมบัติเหล่านี้จะสร้างความยืดหยุ่นในการพิมพ์จากสถานที่ใดก็ได้ ทั้งยังสามารถเปลี่ยนสถานที่และวิธีการเชื่อมต่อได้ตามความจำเป็นที่เปลี่ยนไป
7. วิเคราะห์ปัญหาก่อนที่จะเกิดปัญหาขึ้นจริงๆ
เครื่องพิมพ์บัตรที่ล้ำหน้าทันสมัยสามารถออกบัตรประจำตัวได้หลายพันใบในแต่ละวัน และเครื่องพิมพ์ที่ดีที่สุดในรุ่นจะมีระบบวินิจฉัยอัตโนมัติที่แจ้งเตือนถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้น แม้กระทั่งแก่ผู้ปฏิบัติงานที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ด้านเทคนิค เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งนอกจากการแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาที่ต้องซ่อมแซมเครื่องแล้ว ผู้ปฏิบัติงานจะรับรู้เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น เพื่อทำการแก้ไขได้ทันท่วงที
8. ความสามารถในการขยายระบบเพื่อลดต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของ
เมื่อองค์กรมีขนาดใหญ่ขึ้น ความต้องการในการออกบัตรก็จะเพิ่มสูงขึ้น หรืออาจจำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีการ์ดที่ทันสมัยกว่าเดิม โซลูชั่นอัปเกรดที่สามารถขยายได้ทีละส่วนจะตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งช่วยลดต้นทุนรวมในการเป็นเจ้าของในอนาคต โซลูชั่นที่ใช้ควรเป็นแบบโมดูลาร์ ที่สามารถเพิ่มคุณสมบัติที่เอื้อต่อการขยายต่อยอดเทคโนโลยีได้ เพื่อให้ยังสามารถใช้งานเครื่องพิมพ์บัตรที่ปลอดภัยได้ในปีต่อๆ ไป
9. เทคโนโลยีการเคลือบบัตรที่ยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อมและราคาประหยัด
ผู้ผลิตบัตรประจำตัวที่มีความปลอดภัยในปริมาณมาก กำลังมองหาวิธีลดต้นทุนและพัฒนาประสิทธิภาพเทคโนโลยีการเคลือบบัตรอย่างต่อเนื่อง หน่วยงาน GreenCircle ได้รับรองว่าเทคโนโลยีการเคลือบบัตรแบบไร้ขยะ (Wasteless Lamination) เป็นโซลูชั่นที่เหมาะสมกับบริษัทที่ต้องการลดต้นทุนและร่วมปกป้องสิ่งแวดล้อม ซึ่งสามารถทำได้โดยการปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
10. การหาพาร์ทเนอร์ที่เหมาะสม
การทำความเข้าใจตัวเลือกด้านเทคโนโลยีต่างๆ ที่ต้องการ และพิจารณาแต่ละตัวเลือก จะช่วยให้การคัดสรรมีประสิทธิภาพ และท้ายสุด สามารถเลือกโซลูชั่นการพิมพ์บัตรที่ปลอดภัยและตรงตามความต้องการใช้อย่างแท้จริง